รู้จักชนิดของเบียร์

หลายๆ คนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่าเครื่องดื่มอย่างเบียร์นั้นไม่ได้มีลักษณะหน้าตา หรือบอดี้เดียวกันทั้งหมด ในมุมของคนที่รู้จักเครื่องดื่มประเภทนี้ก็อาจได้เคยพบเห็นเบียร์ที่ มีสี กลิ่น รสชาติ บอดี้ และปริมาณแอลกอฮอล์ ที่ต่างกันไป และรายละเอียดเหล่านี้เองที่จะเป็นองค์ประกอบหลักในการแยกชนิดของเบียร์

ทำความรู้จักชนิดของเบียร์

โดยทั่วไปแล้วเบียร์จะมีการประเภทแบ่งตามสายพันธุ์ยีสต์ที่ใช้เป็นหลัก สามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด 3 ประเภทหลักๆ คือ เอล (Ales), ลาเกอร์ (Lager) และ ไวลด์ (Wild) ซึ่งในแต่ละประเภทยังมีการจำแนกแยกย่อยประเภทลงไปอีกมากมายตามการปรับแต่งการใช้ส่วนผสมทำเบียร์ของผู้ผลิต โดยทั้ง 3 ประเภทที่ได้กล่าวไปนั้นจะมีรายละเอียดสำคัญที่ต้องรู้ดังต่อไปนี้

1. ชนิดของเบียร์: Lager (ลาเกอร์)

ลาเกอร์ เป็นประเภทของเบียร์ที่ใช้ยีสต์หมักแบบนอนก้น (Bottom-Fermenting) เมื่อกระบวนการหมักเสร็จ ยีสต์จะนอนก้นถังหมักเป็นตะกอน โดยเบียร์ประเภทลาเกอร์นั้นสามารถแยกประเภทย่อยได้อีกมากมาย และมีตั้งแต่สีเหลืองอ่อนไปจนถึงสีเข้มจนเกือบดำ

เบียร์ในกลุ่ม Lager เช่น 

  • International Pale Lager (อินเตอร์เนชั่นเนล เพล ลาเกอร์) เป็นประเภทที่ถูกผลิตอย่างแพร่หลายมากที่สุดจากผู้ผลิตรายใหญ่ของแต่ละประเทศทั่วโลก โดยลาเกอร์เป็นเบียร์ที่สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป มีรูปแบบบรรจุพันธุ์ทั้งแบบขวดสีชาไปจนถึงขวดเขียว
  • Czech Dark Lager (เช็ค ดาร์ค ลาเกอร์) เป็นเบียร์ประเภทลาเกอร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีสีเข้มกว่าลาเกอร์ชนิดอื่นๆ ตั้งแต่น้ำตาลแดงจนถึงเกือบดำ เป็นเพราะส่วนผสมที่ต่างออกไปจากลาเกอร์ตัวคืนคือ เช็ค ดาร์ค ลาเกอร์ จะถูกใส่มอลต์สีเข้มลงไปด้วยเช่น มอลต์ประเภทคาราเมล มอลต์ประเภทนี้ให้กลิ่นหอมแบบมอลต์ตี้ปนขอบขนมปัง และจะใช้ฮ็ฮปส์กลุ่มโนเบิลจากยุโรป (ฮ็อปส์คลาสสิค) เท่านั้น ซึ่งฮ็อปส์สายพันธ์นี้ให้โทนกลิ่นเผ็ดๆ

2. ชนิดของเบียร์ : Ale (เอล)

ถัดมาคือ Ale เป็นประเภทที่มีความต่างกับ Lager อย่างเห็นได้ชัด จากยีสต์ที่ใช้หมักจะอยู่บนผิวของเบียร์เรียกว่า Top Fermentation คือยีสต์จะลอยตัวอยู่บนผิวของเบียร์เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการหมัก ทำให้ Ale มีสีที่หลากหลายตั้งแต่สีเหลืองไปจนถึงสีดำสนิท

เบียร์ในกลุ่ม Ale เช่น

  • Weissbier (ไวซ์เบียร์) คือเบียร์ที่มีส่วนผสมของข้าวสาลีมากกว่า 50% ขึ้นไป (มากกว่าเบียร์ชนิดอื่น ที่ส่วนผสมในเบียร์เป็นข้าวบาร์เลย์ หรือ แอ๊ดจั๊งที่เป็นข้าวหรือข้าวโพด) โดยวีทเบียร์มีชนิดแยกย่อยลงไปอีกมากมาย โดยชนิดที่หลายคนอาจคุ้นหูกันเป็นส่วนใหญ่ได้แก่ Hefweizen, Dunkelweizen, Weizenbock, Witbier, Berliner Weisse และ American Wheat
  • Pale Ale หรือ PA (เพลเอล) คือกลุ่มเบียร์ที่พระเอกของส่วนผสมคือฮ็อปส์แล้วค่อยตามด้วยมอลต์และยีสต์ ฮ็ฮปส์ที่นิยมใช้ในกลุ่มเอล จะเป็นฮ็อปส์ที่มีค่าความขมปานกลางถึงสูง และให้กลิ่นโทนผลไม้ สมุนไพร หรือ ดอกไม้ ใช้มอลต์สีอ่อนเป็นหลัก แต่มีการใช้มอลต์สีเข้มลงไปผสมด้วย รสชาติที่ได้จากมอลต์จะอยู่ในโทนมอลต์ตี้ติดความหวานแบบขนมปังบิสกิต และมีสีหลากหลายจากการผสมมอลต์ ส่วนยีสต์ประเภทนี้จะช่วยโชวกลิ่นฟรุ๊ตตี้ของฮ็ฮปส์
    เบียร์ในกลุ่มนี้สามารถแยกชนิดได้อีกตามการปรุงแต่งของผู้ผลิตไม่ว่าจะเป็น American Pale Ale, Belgian Pale Ale และอื่นๆ อีกมากมาย
  • Stout (สเตาท์) หรือ เบียร์ดำ คือเบียร์ที่คนส่วนมากเรียกตามลักษณะของสีที่มีความเข้มจนเป็นสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ สเตาท์สามารถแยกย่อยชนิดลงอีกตามการปรับปรุงสูตรของผู้ผลิตแต่ละท้องที่ เช่น Irish Stout, Imperial Stout, American Stout, Oatmeal Stout และอื่นๆ อีกมากมาย

หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับชนิดของเบียร์แล้ว หลายๆ คนก็จะสามารถเข้าใจได้ว่าเครื่องดื่มประเภทนี้ ไม่ได้มีเพียงรสชาติเดียว ไม่มีแค่สีเหลือง รวมไปถึงส่วนผสมที่ใช้ในการผลิต ไม่ว่าจะเป็น มอลต์ ยีสต์ และฮอปส์ ที่มีชนิดแยกย่อยลงไปอีกใน ซึ่งในรายละเอียดปลีกย่อยทั้งหมดที่กล่าวมานี้ มีส่วนสำคัญที่ทำให้เบียร์เกิดเป็นประเภทแยกย่อยออกมากเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้ทั้งหมด